ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ของผู้ป่วยเบาหวานเป็นประเภทนี้จะมีการผลิตอินซูลินในตับอ่อนจะลดลง 10-15% และในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จะตรงกันข้ามกัน ร่างกายจะผลิตอินซูลินมากเกินไป ซึ่งจะลดการทำงานเนื้อเยื่อของร่างกายให้ต่ำลง
ดิฉันทราบมาว่าเบาหวานมี 2 ระยะ มันต่างกันอย่างไรบ้างคะ?
แน่นอนครับ คุณสามารถอยู่กับโรคเบาหวานได้และไม่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ต้อกระจก โรคหัวใจ ไตวาย โรคตับอ่อน แผลในอาหาร และโรคอื่นๆ น้ำตาลในเลือดสามารถควบคุมได้ด้วยควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการบำบัดที่เหมาะสม
เป็นไปได้ไหมคะที่เราควรมีวิธีควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด?
การมีน้ำหนักเกินและการกินน้ำตาลมากเกินไปทำให้เกิดการพัฒนาของโรคเบาหวานอย่างแน่นอนครับ แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุหลัก ผู้ที่มีความเสี่ยงคือผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี โดยน้ำหนักเกิน (รวมถึงโรคอ้วนด้วย) และมีน้ำหนักปกติ ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีบทบาทสำคัญในการเกิดโรคนี้เช่นกัน
จริงหรือไม่คะที่คนที่ทานของหวานและคนน้ำหนักเกินมีความเสี่ยงสูง?
มียาหลายกลุ่มครับ แต่ละแบบก็มีกลไกการออกฤทธิ์ต่างกัน ยาแต่ละประเภทถูกกำหนดโดยคำนึงถึงปัจจัยทางด้านร่างกายของแต่ละบุคคล เช่น อาการ, น้ำหนัก, ปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด, อาหาร, ฯลฯ ซึ่งจะต้องดูควบคู่กันไปก่อนการจ่ายยา
Biguanida ก็เป็นหนึ่งในตัวยาที่ช่วยให้ร่างกายอินซูลิน แต่ในทางกลับกันมันก็ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารด้วยเช่นกัน เพราะร่างกายจะต้องพึ่งพายาเสมอ แต่ถ้าหากไม่ทานก็จะไม่มีการผลิตได้เอง
ข้อเสีย:
คุณปริญญาช่วยบอกเราเพิ่มได้ไหมคะว่ายาที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานที่ใช้กันอยู่นั้นสามารถให้ผลได้จริงหรือไม่?
• ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
• หากบุคคลนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารจะเป็นอันตรายได้
• ทำให้เกิดการเสพติด
• น้ำหนักมากขึ้น, น้ำหนักเพิ่มขึ้น, อ้วนขึ้น
• หากบุคคลนั้นมีปัญหากับระบบหัวใจและหลอดเลือดก็อาจเป็นอันตรายได้
Incretins เป็นตัวยาที่ใช้ในการฉีด เป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการผลิตอินซูลิน แต่อันตรายจากการใช้ยาเหล่านี้คือทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและปัญหาทางเดินอาหาร
Gliptins ก็เป็นอีกหนึ่งตัวยาที่ ช่วยในการผลิตฮอร์โมนตัวนี้ครับ แต่ไม่เพียงแค่มีราคาแพงเท่านั้น มันยังทำให้ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มน้ำหนักเท่านั้น และอาจเสพติดได้
Inhibitor alfa-glukosidase เป็นสารยับยั้งการดูดซึบคาร์โบไฮเดรตในระบบย่อยอาหาร แต่ด้วยการที่มันให้ผลเพียงเล็กน้อย ดังนั้นผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับในปริมาณมาก ถือว่าเป็นตัวยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลที่มาจากอาหารจำพวกแป้งที่ผู้ป่วยจะต้องนำมาใช้กับอาหารทุกมื้อ จากนั้นตัวยาจะสามารถกระตุ้นการผลิตอินซูลินได้ แต่มันไม่สามารถใช้ได้เป็นเวลานาน
Thiazolidinediones ก็เป็นอีกตัวที่ช่วยต่อต้านร่างกายไม่ให้ยับยั้งการสร้างอินซูลิน
โดยมี ข้อเสีย เช่น:
• น้ำหนักมากขึ้น, น้ำหนักเพิ่มขึ้น, อ้วนขึ้น
• มีอาการบวมของแขนขาได้
• สำหรับผู้หญิงทำให้เกิดความเสี่ยงของการแตกหักกระดูกในระยะยาว
• ให้ผลช้า
• ราคาเเพง